วันที่ 3 ตุลาคม 2567 ผู้อำนวยการสำนักฯ และบุคลากรของสำนักการคลังและสินทรัพย์ ได้ร่วมพิธีทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้ล่วงลับ และพิธีเจริญพระพุทธมนต์เสริมสิริมงคลเรียกขวัญกำลังใจให้แก่ผู้ประสบเหตุไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา โรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุทัยธานี เขต 2 โดยมีพลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยนายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ คณะที่ปรึกษา รมว.ศธ. นายสุเทพ แก่งสันเทียะ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน นายธีร์ ภวังคนันท์ รองเลขาธิการ กพฐ. นายภูธร จันทะหงษ์ ปุณยจรัสธำรง ผู้ช่วยเลขาธิการ กพฐ. รวมถึงผู้บริหารระดับสูง และบุคลากรสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ และ สพฐ. เข้าร่วม ณ บริเวณลานจอดรถอาคารสามัญ 99 สพฐ. กระทรวงศึกษาธิการ
.
โดยพลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศธ. ประธานในพิธีจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย จุดเครื่องทองน้อยผู้วายชนม์ โดยเจ้าหน้าที่กรมการศาสนา อาราธนาศีล พระสงฆ์ให้ศีล จากนั้น ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา กล่าวคำไว้อาลัยให้แก่ผู้วายชนม์ เจ้าหน้าที่ลาดผ้าภูษาโยง ต่อด้วยประธานทอดผ้าบังสุกุล ถวายเครื่องไทยธรรมและปิ่นโตภัตตาหารเพลแด่พระภิกษุสงฆ์ จากนั้นประธานในพิธีและผู้ร่วมงาน ร่วมกรวดน้ำ รับพร พร้อมยืนสงบนิ่งไว้อาลัยแด่ผู้วายชนม์โดยพร้อมเพรียงกัน
.
ทั้งนี้ จากเหตุการณ์ดังกล่าว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้รับผู้บาดเจ็บทุกคนไว้เป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ อีกทั้งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้รับศพผู้เสียชีวิตไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ พระราชทานพวงมาลาวางหน้าหีบศพผู้เสียชีวิต พระราชทานเพลิงศพแก่ผู้เสียชีวิตเป็นกรณีพิเศษ ทั้งพระราชทานเงินช่วยเหลือและพระราชทานทุนการศึกษาแก่บุตรของครูที่เสียชีวิต ผ่านมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์ ยังความปลื้มปีติแก่พสกนิกรโดยทั่วกัน
.
โอกาสนี้ พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ กล่าวว่า เจตนาในการทําบุญวันนี้ มีหลัก ๆ 3 ประการ คือ เพื่อดลบันดาลให้บุญกุศลส่งไปถึงคุณครู 3 ราย และนักเรียนอีก 20 รายที่เสียชีวิต ให้ไปสู่ภพภูมิที่ดี และให้นักเรียน 3 ราย ที่ยังคงรักษาตัวอยู่ในขณะนี้ ปลอดภัยและฟื้นฟูโดยเร็ว และให้คุ้มครองพวกเราทั้งประเทศให้ปลอดจากภยันตรายต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นอีก ซึ่งพิธีทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้ล่วงลับ และพิธีเจริญพระพุทธมนต์เสริมสิริมงคลเรียกขวัญกำลังใจให้แก่ผู้ประสบเหตุในครั้งนี้ ได้จัดพิธีในทุกสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทั่วประเทศพร้อมกันในเวลา 10:00 น. จากนั้น วันนี้ในช่วงเย็น รมว.ศธ. รมช.ศธ. เลขาธิการ กพฐ. พร้อมทีมผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการ และ สพฐ. จะเดินทางไปร่วมในพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ และพิธีเชิญพวงมาลาพระราชทาน ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระบรมราชินี และพระบรมวงศานุวงศ์ เพื่อวางหน้าหีบศพผู้เสียชีวิต โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี เป็นประธานในพิธี และร่วมพิธีสวดพระอภิธรรม ณ โรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม จังหวัดอุทัยธานี ส่วนวันที่ 8 ตุลาคม ซึ่งเป็นกําหนดพิธีพระราชทานเพลิงศพ รมว.ศธ. รมช.ศธ. เลขาธิการ กพฐ. พร้อมทีมผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการ และ สพฐ. ก็จะไปร่วมด้วย
.
สำหรับการเยียวยาผู้ประสบเหตุ สพฐ. จะเป็นเจ้าภาพในการร่วมรับบริจาคเงินที่จะมาสมทบทุนกองทุนช่วยเหลือให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิต และเป็นทุนการศึกษาให้กับทายาทหรือเป็นทุนช่วยเหลือบุพการีของผู้เสียชีวิต ส่วนเรื่องการพิจารณาขั้นเงินเดือนให้กับครูผู้เสียชีวิต ทาง สพฐ. จะเป็นต้นเรื่องในการดำเนินการต่อไป ขณะที่การทบทวน เรื่อง มาตรการทัศนศึกษา ตอนนี้ ได้สั่งการให้ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ มีหนังสือแจ้งทุกหน่วยงาน คือ 1.กำชับในสิ่งเดิม และ 2. ดําเนินการทําหนังสือไปถึงกรมการขนส่งทางบก ในการขอความร่วมมือ กรณีที่สถานศึกษาหรือหน่วยงานทางการศึกษา จําเป็นต้องใช้รถในการไปทัศนศึกษา หรือทำกิจกรรม ขอให้กรมการขนส่งทางบกช่วยอํานวยความสะดวกในการตรวจสภาพรถให้มีความพร้อมในการเดินทาง หรืออาจจะเป็นผู้ประกอบการ ดำเนินการขอความร่วมมือไปยังกรมการขนส่งทางบกเอง เพื่อทําหนังสือมายืนยัน จะได้มีความสะดวกต่อผู้ประกอบการด้วย อีกประการหนึ่งคือทําหนังสือไปถึงหน่วยงานในสังกัดทั้งหมด ให้การไปทัศนศึกษาหรือทำกิจกรรมครั้งต่อไป ให้แจ้งกรมการขนส่งทางบก ตรวจสภาพรถก่อนหรือต้องมีหนังสือรับรองจากกรมการขนส่งทางบกมาว่ารถมีสภาพพร้อมที่จะใช้ในการเดินทางด้วย นอกจากนี้ ก่อนเดินทางก็ต้องให้ผู้ประกอบการดําเนินการคล้ายกับบนเครื่องบิน คือต้องมีการสาธิตวิธีการใช้ safety belt การใช้งานช่องทางหลบหนี เพื่อที่เวลาเกิดเหตุจะสามารถเอาชีวิตรอดได้
.
“กระทรวงศึกษาธิการ ขอแสดงความเสียใจต่อเหตุที่เกิดขึ้น และจะพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อหาแนวทางป้องกันไม่ให้เกิดเหตุเช่นนี้ขึ้นอีกในอนาคต โดยประการหนึ่งที่เราทำได้ นอกจากการทบทวนมาตรการทัศนศึกษา คือการปรับหลักสูตรการเรียนการสอนให้มีการเพิ่มเติมทักษะในเรื่องแผนเผชิญเหตุการเอาตัวรอด ซึ่งที่ผมได้คิดไว้ จะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ หน่วยงานการศึกษาในระบบ และการศึกษานอกระบบ อาจจะมีการจัดทํารูปแบบโดยนำเอาหลักสูตรที่เป็นมาตรฐานสากลมาใช้ในการฝึกเพื่อเพิ่มทักษะให้แก่เด็ก นอกเหนือจากเรื่องการนั่งรถ เรื่องการเผชิญภัยต่าง ๆ ก็จะต้องดําเนินการอย่างเร่งด่วนต่อไป” รมว.ศธ. กล่าว